วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559

Mercy killing: ปลายทางสุดท้ายแด่สุนัขจรจัด





                เมื่อเอ่ยถึง "สุนัขจรจัด" หลายคนคงนึกภาพหมาผอมโซ เนื้อตัวเหม็นสกปรก ชอบคุ้ยขยะหาอาหาร นั่งๆนอนๆอยู่ตามตรอกซอกซอย ตามชุมชนต่างๆ บางคนใช้วิธีเดินห่างๆไม่เฉียดเข้าใกล้เพราะกลัวอันตราย

                ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วสุนัขจรจัดก็คือสุนัขบ้านที่เลี้ยงไว้ ซึ่งอาจหลุดออกจากบ้านแล้วกลับไม่ถูก หรือเจ้าของจงใจนำมาปล่อยทิ้งทั้งที่ไม่ได้ทำหมัน จึงมีแพร่ประชากรหมาที่ไม่มีใครดูแล






                นอกจากนี้ คนไทยยังมีทัศนคติผิดๆ ที่ปลูกฝังกันมาในกลุ่มคนเลี้ยงสุนัข คือ 'คิดอะไรไม่ออกก็เอามาปล่อยวัด' ส่งผลให้พระต้องแบกรับภาระเลี้ยงสุนัขที่ถูกทอดทิ้งนับร้อยตัว เห่าหอนโหวกเหวก ขับถ่ายเรี่ยราดจนทำให้บรรยากาศที่ควรสงบร่มเย็นกลายเป็นโกลาหลวุ่นวาย

                กรมปศุสัตว์ได้จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการจัดทำ "แผนยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดอย่างยั่งยืน ปี 2559–2563" เพื่อวางแนวทางการจัดระเบียบปัญหาสุนัขจรจัดในเมืองไทย







                โดยให้เหตุผลว่า การฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า หรือทำหมัน เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งต้นเหตุจริงๆ อยู่ที่ผู้เลี้ยงที่ไม่มีจิตสำนึกความรับผิดชอบ จึงควรมีการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง ฝังไมโครชิพ ให้ผู้เลี้ยงเสียภาษี และออกกฎหมายควบคุม เพื่อไม่ให้ผู้เลี้ยงปล่อยปะละเลย

                นายกสมาคมพิทักษ์สัตว์ ให้ความเห็นว่า ภาครัฐต้องทำงานร่วมกับชุมชนในการนำสุนัขเลี้ยง หรือแม้แต่ไล่จับสุนัขจรจัดมาขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องควบคุมประชากรด้วย บางประเทศเขาใช้วิธีการุณยฆาต หากไม่มีคนมารับไปเลี้ยงเกินเวลาที่กำหนดจะฉีดยาให้ตาย ถือเป็นการกระตุ้นสังคมด้วยว่าถ้าไม่อยากให้หมาตายก็มาเอาไปเลี้ยง






                การุณยฆาต หรือ ปรานีฆาต ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Euthanasia หรือ mercy killing คำว่า Euthanasia เป็นภาษากรีก (Greek) มาจากคำว่า “eu” แปลว่า ดีงาม (good)  และคำว่า “thanatos”  ซึ่งแปลว่า ตาย (death) 

                การทำเมตตาฆาต จึงเป็นการกระทำหรืองดเว้นการกระทำเพื่อจบชีวิตของสัตว์ โดยให้สัตว์หมดความรู้สึกอย่างรวดเร็วและตายโดยปราศจากความเจ็บปวดและทรมาน  เช่น การสูดดมยา หรือใช้การฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย ฯลฯ







                ทั้งนี้การทำเมตตาฆาตเกิดได้จากหลายสาเหตุ

1. ป่วยด้วยโรคที่ไม่มีหนทางเยียวยาและต้องได้รับทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

2. ป่วยด้วยโรคติดต่อสู่คนที่เป็นอันตรายร้ายแรงสามารถทำให้คนเสียชีวิตได้ 

3. ป่วยด้วยโรคเรื้อรังต้องใช้ระยะเวลาในการดูแลรักษายาวนาน

4. ป่วยด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง 

5. เป็นสุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรม เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์อื่นๆ 

6. เป็นลูกสุนัขที่เกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางร่างกาย 

7. เป็นสุนัขแก่ที่มีความทุกข์ทรมานจากสภาพร่างกายที่ตัวเองเป็นอยู่ 

8. เป็นสุนัขจรจัด ไม่มีเจ้าของ 

9. เป็นสุนัขที่ใช้ในการทดลอง

                ประเทศที่มีการออกกฎหมายการุณยฆาตแต่ละประเทศนั้นมีกำหนดเวลาและวิธีการทำการุณยฆาตที่ต่างกันออกไป เช่น ประเทศญี่ปุ่นให้เวลา 7 วันหลังจากการจับสุนัขมาได้ ประเทศโรมาเนียให้เวลา 14 วัน และยังมีอีกหลายประเทศที่มีกฎหมายการุณยฆาตสัตว์จรจัดเพื่อไม่ให้สัตว์เหล่านั้นไปทำร้ายคนในประเทศ





ที่มา:

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2559

แดนน้องหมาจรจัด





                ปัญหาสุนัขจรจัดที่มีจำนวนมากนั้นเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานและภายในสังคมต่างๆ ก็ต่างหาวิธีเพื่อจำกัดปริมาณสุนัขให้น้อยลงและให้มันอยู่ร่วมกันไม่กระจัดกระจาย อย่างการนำไปไว้ที่เทศบาล บ้างก็รับเลี้ยงหมาจรจัดภายในบ้านของตัวเองเป็นจำนวนมาก บ้างก็นำไปไว้ในโรงเลี้ยงสุนัข

                แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีข่าวเกี่ยวกับการสร้างสถานสงเคราะห์สุนัขแบบใหม่ที่เมื่อดูแล้วสามารสร้างความเป็นอิสระให้กับสุนัขได้มากกว่าเทศบาลหรือพื้นที่บ้านเล็กเพราะสถานสงเคราะห์อันใหม่นี้สร้างโดยอยู่บนเขา มีความเป็นธรรมชาติสูง สถานสงเคราะห์นี้มีชื่อว่า Territorio de Zaguatesหรือแปลว่าดินแดนของเหล่าตูบจรจัด ตั้งอยู่ที่ประเทศคอสตาริก้า






เป็นสถานสงเคราะห์ที่ไม่หวังผลกำไร เปิดมานานกว่า 8 ปีแล้ว เพื่อแก้ปัญหาตูบจรจัดที่ถูกทอดทิ้งในภูมิภาคอเมริกากลาง โดยที่นี่เปรียบเสมือนบ้านของเจ้าตูบจรจัดสายพันธุ์ต่าง ๆ มากมายทั้งหมดกว่า 900 ชีวิต และมีความต่างจากที่อื่น ๆ คือจะไม่มีการการุณยฆาตสุนัขอย่างเด็ดขาด

 ทีมเจ้าหน้าที่เลี้ยงดูเจ้าตูบอย่างมีอิสรภาพ มีพื้นที่ที่ให้มันได้เล่นอย่างสนุกสนาน มีทุ่งหญ้าให้มันได้วิ่งออกกำลังกาย มีอาหารให้กินอิ่ม โดยจุดมุ่งหมายที่สำคัญของสถานสงเคราะห์แห่งนี้คือให้เจ้าตูบทั้งหลายได้มี ความสุขสุด ๆ จนกว่าจะมีครอบครัวใจดีมารับไปอุปถัมภ์เลี้ยงดู

สโลแกนของสถานสงเคราะห์สุนัขแห่งนี้คือ "เมื่อคุณรับเลี้ยงสุนัขไปเลี้ยง 1 ตัว ก็เท่ากับคุณได้พันธุ์สุนัขที่ไม่เหมือนใครไปด้วยเช่นกัน"






                ถึงแม้ว่าทุกประเทศอาจไม่สะดวกที่จะสามารถสร้างหรือหาพื้นที่ ในการที่จะสร้างดินแดงให้กับสุนัขแบบนี้ได้แต่ก็ต้องถือว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจและน่าลองที่จะทำดูเพื่อการดูแลสุนัขจรจัดไม่ให้กระจัดกระจายแล้วสร้างปัญหาแถมน้องหมาก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระด้วย







วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559

ควบคุมปริมาณสุนัขลดการเกิดปัญหาน้องหมาจรจัด





                สุนัขจรจัด คือ สุนัขที่ไม่มีเจ้าของดูแลโดยตรงหรือไม่ได้มีการกักกันไว้โดยผู้ดูแลแทนชั่วคราว พวกมันจึงเที่ยวเร่ร่อนในชุมชนและอาศัยอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างเสรี โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดสุนัขจรจัดสามารถแยกได้ดังนี้

                1. การขาดความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์

                2. การขาดความรับผิดชอบของผู้เพาะพันธุ์สัตว์

                3. การขาดความรับผิดชอบของผู้เพาะพันธุ์และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับพันธุ์สัตว์

                4. การขาดความรับผิดชอบของสัตวแพทย์

                5. การขาดความรับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐ

                สุนัขเหล่านี้มีโอกาสสร้างปัญหาด้านสาธารณสุขและความปลอดภัยได้มาก ซึ่งได้แก่เรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

                1. การแพร่เชื้อโรคสู่คนและสัตว์อื่นๆ

                2. การบาดเจ็บและความหวาดกลัวอันเกิดจากพฤติกรรมก้าวร้าว

                3. การสร้างความรบกวนเนื่องจากเสียงและความสกปรก

                4. การบาดเจ็บล้มตายของปศุสัตว์ สัตว์ป่า หรือสัตว์อื่นๆ

                5. การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

                ด้วยเหตุนี้เอง หลายประเทศจึงมีข้อกำหนดตามกฎหมายให้องค์กรสาธารณะที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งโดยปกติจะเป็นหน่วยงานของรัฐบาล ทำหน้าที่ควบคุมประชากรสุนัขจรจัด






                การมีสุนัขจรจัดวิ่งไปมาอยู่ในสถานที่ชุมชนจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปล่อยปละละเลยได้ เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยของประชาชนโดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ความสะอาดสะอ้านของบ้านเมืองและสุขลักษณะ

                แต่ถึงแม้ว่าสุนัขเหล่านั้นจะไม่มีผู้ดูแลคอยหาอาหารและให้ที่อยู่อาศัย กระนั้นก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้สุนัขจรจัดสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ทั้งเศษอาหารที่ชาวบ้านเหลือทิ้งและความเมตตาของผู้ใจบุญที่แบ่งปันอาหารให้ ในด้านที่อยู่อาศัย สุนัขสามารถอาศัยอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งยังร่อนเร่ไปตามแหล่งต่าง ๆ จนกว่าจะพบสถานที่พอใจของมัน

                โดยการจะควบคุมจำนวนและปัญหาสุนัขจรจัดนั้น จะต้องเกิดจากความร่วมมือกันของทั้ง ภาครัฐ สัตวแพทย์ และประชาชน

                ซึ่งองค์ประกอบสำคัญข้างต้นนี้คือ ประชานชน ผู้เลี้ยงสุนัข

                การจะแก้ปัญหานี้ได้จึงต้องควรให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสุนัขของตนเองและสาธารณะ






                สำหรับแนวทางการในการดูแลปัญหาสุนัขจรจัดนั้น มีดังนี้

                1. การทำหมันสุนัข ทั้งกับสุนัขที่มีเจ้าของและสุนัขจรจัด เพื่อควบคุมจำนวนสุนัขที่ไม่พึงปรารถนาในอนาคต

                2. การลงทะเบียนสุนัขเพื่อควบคุมสุนัขที่มีเจ้าของ

                3. การฉีดวัคซีนป้องกันโรค

                4. การรณรงค์ให้ความรู้กับประชนในเรื่องของปัญหาสุนัขจรจัดให้เกิดสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม

                ถึงแม้ว่าปัญหาสุนัขจรจัดจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและเห็นผล 100% แต่สิ่งที่เราทุกคนพอจะทำได้ในตอนนี้ นั่นคือการไม่สร้างสุนัขจรจัดตัวใหม่ขึ้นมาจากสุนัขในความดูแลของเรา และไม่นิ่งดูดายต่อสภาพปัญหาสุนัขจรจัดตรงหน้า






วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559

Disease Surveillance: โรคสัตว์ที่ติดคนโดยมีสุนัขเป็นพาหะ




                นอกจากปัญหาด้านอื่นๆ ที่เราพบได้จากสุนัขแล้วยังมีปัญหาอีกอย่างที่อาจเกิดขึ้นจากสัตว์ได้โดยที่เราอาจไม่ทันคาดคิดนั่นคือการติดเชื้อโรคต่างๆ จนอาจทำให้ป่วยหนักได้จากสุนัข

                ได้แก่

                1. พิษสุนัขบ้า สามารถติดเชื้อได้จากการถูกสุนัขที่ป่วยกัดโดยน้ำลายจะนำเชื้อเข้าสู่ร่างกาย หรืออาจติดเชื้อได้จากการที่สุนัขเลียตรงบริเวณที่มีบาดแผลซึ่งนั่นทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้

                ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรีนั้นถือว่าน้อยเพราะสุนัขนั้นไม่ค่อยมีความไม่ดุร้าย อาจมีบางตัวที่จะกัดก็ต่อเมื่อมีคนไปแหย่หรือทำร้ายเท่านั้น และดูไม่มีอาการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแต่อย่างใด

                2. ปรสิต พยาธิไส้เดือน สามารถติดเชื้อได้จากการที่เราไปสัมผัสพื้นดินที่เคยมีสุนัขอุจาระไว้ ซึ่งไข่ของพยาธิในอุจาระสุนัขก็จะฝั่งตัวลงไปในดินซึ่งเมื่อเราไปสัมผัสและไม่ได้มีการทำความสะอาดมือก่อนสัมผัสร่างกายส่วนอื่นๆ ก็สามารถทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้

                ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรีมีโอกาสติดเชื้อได้หากเวลาที่ทำกิจกรรมแล้วนั่งติดกับพื้นดินและไม่มีการทำความสะอาดมือให้สะอาดก่อนบริโภคสิ่งของหรือสัมผัสร่างกายส่วนต่างๆ ที่ทำให้เข้าสู่ร่างกายภายในได้

                3. เลปโตสไปโรซิส สามารถติดเชื้อได้จากการไปสัมผัสกับปัสสาวะของสัตว์ หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนกับปัสสาวะของสัตว์ที่ป่วย และเมื่อเราไม่รู้ตัวก็มีการนำมันเข้าสู่ร่างกายอาจจะทางปากหรือการจับบาดแผล เป็นต้น

                ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรี มีความเสี่ยงอยู่บ้างตรงที่เมื่อสุนัขนั้นปัสสาวะแล้วบางครั้งมีการไปอยู่ตรงที่คนมักใช้กันอย่างโต๊ะอาหารก็อาจทำให้มีการตกหล่นของเชื้อโรคบนโต๊ะและเมื่อเราไม่ทราบเราก็ไปนั่งแลสัมผัสกับโต๊ะก็อาจทำให้มีการติดเชื้อโรคได้จากทางนั้น

                4. ขี้กลาก สามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสผิวหนังโดยตรงจากสัตว์ที่เป็นโรค หรือสัมผัสสิ่งของของสุนัขที่ป่วยเป็นโรคอยู่ โดยโรคขี้กลากนั้นเป็นเชื้อราที่จะอยู่ตามผิวหนังภายนอกและสิ่งของที่สุนัขนั้นใช้

                ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรี มีความเสี่ยงอยู่บ้างเพราะตัวโรคอยู่ในรูปแบบของแบคทีเรียซึ่งบางทีอาการของสุนัขในช่วงแรกยังไม่ได้ออกแสดงความเป็นโรคอย่างชัดเจน หากเราไม่รู้ว่ามันป่วยเป็นโรคนี้แล้วไปเล่นหรือสัมผัสมันก็อาจทำให้ติดโรคได้

                5. โรคลาย์ม สามารถติเชื้อได้จาก เห็บของสุนัขที่มีเชื้อนั้นมากัด โดยจะมีลักษณะเป็นผื่นแบนราบ จากนั้นจะมีอาการตามมาอย่างเป็นไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัวและข้อ

                ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรี ถือว่ายังน้อยอยู่เพราะยังไม่มีการแพร่โรคนี้มากเท่าไหร่ในบ้านเรา แต่ก็มีปัญหาด้านอื่นๆ ในการติดเห็บหมัดจากสัตว์แทนจากโรคอื่นๆที่มากจากเห็บอย่างเออร์ลิเชีย ,บาบิเซีย , และเฮปปาโตซูน ปัญหาการถูกดูดเลือดจากตัวเห็บที่ไปติดมาจากสุนัข ซึ่งตรงนี้มีโอกาสที่จะอาจจะติดเห็บจากสุนัขได้เมื่อเราไปเล่นกับสุนัข