นอกจากปัญหาด้านอื่นๆ
ที่เราพบได้จากสุนัขแล้วยังมีปัญหาอีกอย่างที่อาจเกิดขึ้นจากสัตว์ได้โดยที่เราอาจไม่ทันคาดคิดนั่นคือการติดเชื้อโรคต่างๆ
จนอาจทำให้ป่วยหนักได้จากสุนัข
ได้แก่
1.
พิษสุนัขบ้า สามารถติดเชื้อได้จากการถูกสุนัขที่ป่วยกัดโดยน้ำลายจะนำเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
หรืออาจติดเชื้อได้จากการที่สุนัขเลียตรงบริเวณที่มีบาดแผลซึ่งนั่นทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้
ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรีนั้นถือว่าน้อยเพราะสุนัขนั้นไม่ค่อยมีความไม่ดุร้าย
อาจมีบางตัวที่จะกัดก็ต่อเมื่อมีคนไปแหย่หรือทำร้ายเท่านั้น
และดูไม่มีอาการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแต่อย่างใด
2. ปรสิต พยาธิไส้เดือน สามารถติดเชื้อได้จากการที่เราไปสัมผัสพื้นดินที่เคยมีสุนัขอุจาระไว้
ซึ่งไข่ของพยาธิในอุจาระสุนัขก็จะฝั่งตัวลงไปในดินซึ่งเมื่อเราไปสัมผัสและไม่ได้มีการทำความสะอาดมือก่อนสัมผัสร่างกายส่วนอื่นๆ
ก็สามารถทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้
ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรีมีโอกาสติดเชื้อได้หากเวลาที่ทำกิจกรรมแล้วนั่งติดกับพื้นดินและไม่มีการทำความสะอาดมือให้สะอาดก่อนบริโภคสิ่งของหรือสัมผัสร่างกายส่วนต่างๆ
ที่ทำให้เข้าสู่ร่างกายภายในได้
3. เลปโตสไปโรซิส สามารถติดเชื้อได้จากการไปสัมผัสกับปัสสาวะของสัตว์ หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนกับปัสสาวะของสัตว์ที่ป่วย
และเมื่อเราไม่รู้ตัวก็มีการนำมันเข้าสู่ร่างกายอาจจะทางปากหรือการจับบาดแผล เป็นต้น
ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรี
มีความเสี่ยงอยู่บ้างตรงที่เมื่อสุนัขนั้นปัสสาวะแล้วบางครั้งมีการไปอยู่ตรงที่คนมักใช้กันอย่างโต๊ะอาหารก็อาจทำให้มีการตกหล่นของเชื้อโรคบนโต๊ะและเมื่อเราไม่ทราบเราก็ไปนั่งแลสัมผัสกับโต๊ะก็อาจทำให้มีการติดเชื้อโรคได้จากทางนั้น
4. ขี้กลาก สามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสผิวหนังโดยตรงจากสัตว์ที่เป็นโรค
หรือสัมผัสสิ่งของของสุนัขที่ป่วยเป็นโรคอยู่
โดยโรคขี้กลากนั้นเป็นเชื้อราที่จะอยู่ตามผิวหนังภายนอกและสิ่งของที่สุนัขนั้นใช้
ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรี
มีความเสี่ยงอยู่บ้างเพราะตัวโรคอยู่ในรูปแบบของแบคทีเรียซึ่งบางทีอาการของสุนัขในช่วงแรกยังไม่ได้ออกแสดงความเป็นโรคอย่างชัดเจน
หากเราไม่รู้ว่ามันป่วยเป็นโรคนี้แล้วไปเล่นหรือสัมผัสมันก็อาจทำให้ติดโรคได้
5.
โรคลาย์ม สามารถติเชื้อได้จาก เห็บของสุนัขที่มีเชื้อนั้นมากัด
โดยจะมีลักษณะเป็นผื่นแบนราบ จากนั้นจะมีอาการตามมาอย่างเป็นไข้ ปวดหัว
ปวดเมื่อยตามตัวและข้อ
ความเสี่ยงคิดโรคนี้ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรี
ถือว่ายังน้อยอยู่เพราะยังไม่มีการแพร่โรคนี้มากเท่าไหร่ในบ้านเรา
แต่ก็มีปัญหาด้านอื่นๆ ในการติดเห็บหมัดจากสัตว์แทนจากโรคอื่นๆที่มากจากเห็บอย่างเออร์ลิเชีย
,บาบิเซีย , และเฮปปาโตซูน ปัญหาการถูกดูดเลือดจากตัวเห็บที่ไปติดมาจากสุนัข
ซึ่งตรงนี้มีโอกาสที่จะอาจจะติดเห็บจากสุนัขได้เมื่อเราไปเล่นกับสุนัข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น