วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ข้อสอบ V-NET : เด็กสายอาชีพต้องเจอ!






                หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยหรือแทบไม่รู้จักกับการจัดสอบ  V-NET  วันนี้  We Need to Talk จึงจะพาไปให้รู้ถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการศึกษาสายอาชีพและข้อสงสัยต่างๆ นานา


V-NET คืออะไร?

                V-NET  ย่อมาจาก Vocational National Education Test หมายถึง การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ทางด้านอาชีวศึกษา เป็นการทดสอบวัดความรู้มาตรฐานทางวิชาการและวิชาชีพ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สำหรับนักศึกษาอาชีวศึกษา ทีจะจบระดับชั้น ปวช.3 V-NET เทียบได้กับการทดสอบ O-NET ของนักเรียนสายสามัญที่จะสำเร็จการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือมัธยมปีที่ 6


ความสำคัญของการสอบ V-NET

                การทดสอบ V-NET เป็นการสอบวัดมาตรฐานทางวิชาการและวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ต้นสังกัด และสถานศึกษาในการที่จะทราบมาตรฐานการเรียนการสอนของครูและ นักศึกษา ผลการทดสอบ V-NET สามารถนำไปใช้ในการปรับปรุง พัฒนาการเรียนการสอนของครู อันจะส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาสูงขึ้นได้ รวมทั้งการนำผลการสอบ V-NET ไปใช้ในการประกันคุณภาพการศึกษาด้วย


V-NET สอบวิชาใดบ้าง?

                ตามโครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2545 ปรับปรุง พ.ศ. 2546 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ประกอบด้วย วิชาสามัญ ไม่น้อยกว่า 26 หน่วยกิต วิชาชีพ ไม่น้อยกว่า 66 หน่วยกิต และวิชาเลือกเสรี ไม่น้อยกว่า 10 หน่วยกิต รวมทั้งสิ้น ไม่น้อยกว่า 102 หน่วยกิต ฉะนั้นข้อสอบ V-NET จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ข้อสอบวิชาสามัญ (ประกอบด้วย 6 วิชา ได้แก่ วิชาภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา และวิชาพละศึกษาและสุขศึกษา) ประมาณ ร้อยละ 20-25 และข้อสอบวิชาชีพตามสาขาวิชาที่เรียน ประมาณร้อยละ 75-80 เปอร์เซ็นต์


สอบ V-NET ใครรับผิดชอบ  

                การ ทดสอบ V-NET ควรเป็นการดำเนินงานร่วมกันของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสถาบันการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ให้ศึกษานิเทศก์ และ ครูที่เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชาร่วมกันออก   ข้อสอบอยู่ภายใต้กรอบและการ ดำเนินการของ สทศ. ส่วนการจัดสอบนั้นดำเนินการผ่านทางเครือข่ายของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนา อาชีวศึกษาประจำภาค และอาชีวศึกษาจังหวัด โดยอยู่ภายใต้การจัดการของสทศ.







                จากการสำรวจตามเว็ปไซต์ต่างๆ พบว่ามีเด็กสายอาชีพอีกจำนวนมากที่ไม่ทราบว่าตนเองมีสิทธิ์สอบแอดมิชชั่นจากการใช้คะแนน gat/pat หรือ o-net ทั้งนี้อาจเป็นเพราะการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ทั่วถึง






                ความคิดเห็นหนึ่งจากกระทู้ในเว็ปพันทิปบอกว่า ตนเองเห็นใจรุ่นน้อง ถ้าไม่รู้จักไขว่คว้าด้วยตัวเองก็จะไม่ทราบหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับการศึกษาไทยที่ต้องติดตามตลอดเวลา แม้จะไม่เสียใจที่พลาดการสอบ o-net แต่อยากให้เด็กสายอาชีพจำไว้เป็นบทเรียน

                ต้องยอมรับว่าสายสามัญจะได้เปรียบกว่าเพราะเนื้อหาที่ออกสอบคือเนื้อหาตอนเรียนมัธยมปลาย ซึ่งสายอาชีพอาจจะไม่คุ้นเคย ถึงแม้บางมหาวิทยาลัยจะไม่เปิดรับนักเรียนอาชีวะ แต่การสอบยังเปิดโอกาสให้หากต้องการสมัครสอบ gat/pat หรือ o-net เพื่อแอดมิชชั่น  ซึ่งอาจจะต้องไปเรียนพิเศษเพิ่มเติมหรือซื้อหนังสือมาอ่านเองเพื่อมีความรู้ในวิชาต่างๆ มากขึ้น เพราะแต่เดิมตามหลักการของสายอาชีพ ไม่ได้เน้นให้ผู้เรียนต่อมหาวิทยาลัยเป็นหลัก


                สุดท้าย จึงเป็นที่น่าขบคิดว่าเหมาะสมแล้วหรือที่ให้สายอาชีพที่มีความหลากหลายในหลักสูตรมาสอบวิชาสามัญเท่ากันทั้งที่มีโอกาสน้อยกว่า แต่มีความต้องการจะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเหมือนกับเด็กสายสามัญ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น